วันอาทิตย์ที่ 20 มกราคม พ.ศ. 2556

การเล่นดนตรีสากล


การเล่นดนตรีสากล

ครื่องดนตรีสากลประเภทเครื่องสาย





1. ไวโอลิน คือ เครื่องดนตรีที่กำเนิดเสียงในระดับสูงมีทั้งหมด 4 ชนิด คือ ไวโอลิน วิโอลา เชโล และดับเบิลเบส เครื่องดนตรีในตระกูลไวโอลิน คือ เครื่องดนตรีหลักที่ใช้ในวงออร์เคสตร้า ลำตัวไวโอลินทำด้วยไม้ มี 4 สาย ตั้งเสียงต่างกันในระดับคู่ 5 (G , D , A และ E) ปกติจะเล่นโดยใช้คันชักสีที่สายให้สั่นสะเทือน แต่บางครั้งก็จะใช้นิ้วดีด เพื่อให้เกิดเสียงสั่น ไวโอลินจะต้องวางบนไหล่ข้างซ้ายของผู้เล่น แล้วใช้คางหนีบไว้ไม่ให้เคลื่อนที่ มือขวาของผู้เล่นใช้สีสายไวโอลินด้วยคันชัก โดยทั่ว ๆ ไปคันชักจะทำด้วยหางม้า




2. กีตาร์ (Guitar) กีตาร์ คือ เครื่องดนตรีประเภทเครื่องสาย เล่นโดยวิธีการดีด เกี่ยว ดึง หรือ กรีด ลงบนสายกีตาร์ อาจใช้นิ้ว หรือ เพล็คทรัมก็ได้ กล่องเสียงของกีตาร์มีลักษณะคล้ายไวโอลินขนาดใหญ่ คอยาว มีเฟลทโลหะคั่นอยู่ มี 6 สาย และมีหมุดยึดสายที่ปลายคอกีตาร์ สายชองกีตาร์มีทั้งที่ทำด้วยโลหะเเละไนล่อน


เครื่องดนตรีสากลประเภทเครื่องลมไม้





1. คลาริเนต เป็นเครื่องดนตรีประเภทเครื่องลมไม้ ใช้ลิ้นเดียว ปี่คลาริเนตในระดับเสียงบีแฟล็ตได้ถูกใช้เป็นตัวแทนเมื่อมีการกล่าวถึงปี่คลาริเนตเสมอ คลาริเนตมีใช้อยู่หลายชนิด เช่น บีแฟล็ต คลาริเนต เบส คลาริเนต อีแฟล็ต คลาริเนต เป็นต้น ลำตัวปี่ คลาริเนตทำด้วยโลหะและไม้ หรือบางครั้งก็ทำด้วยยางหรือพลาสติก ลำตัวปี่กลวง เปลี่ยนระดับเสียงโดยใช้นิ้วและคีย์โลหะบุนวมปิดเกิดรู ปี่ คลาริเนตมีรูปร่างคล้ายกับปี่โอโบ แตกต่างกันที่ปากเป่า (กำพวด)คุณภาพเสียงของปี่ คลาริเนต มีช่วงเสียงกว้างและทุ้มลึกมีนิ้วพิเศษที่ทำเสียงได้สูงมากเป็นพิเศษ





2. แซ็กโซโฟน ใช้กำพวดที่มีลิ้นเดียว เหมือนอย่างปี่คลาริเนตแต่ลำตัวจะเป็นทรงกรวยเหมือนโอโบ ลำตัวทำด้วยโลหะเหมือนเครื่องทองเหลือง ปากลำโพงเค้งงอย้อนขึ้นมา แซ็กโซโฟนขนาดเล็กให้เสียงสูง ขนาดใหญ่ให้เสียงต่ำ เสียงของ แซ็กโซโฟนเป็นลักษณะผสมผสานมีทั้งความพลิ้วไหว ความกลมกล่อมและความเข้มแข็งปะปนกัน





3. ฟลุท คือ ขลุ่ยชนิดหนึ่งเป็นเครื่องดนตรีอยู่ในกลุ่มเครื่องลมไม้ ฟลุทมีท่อกลวงเกิดเสียงโดยการเป่าลมผ่านส่วนปากเป่า ผู้เล่นต้องถือฟลุทให้ขนานกับพื้น ฟลุทในระยะแรกทำด้วยไม้ ปัจจุบันฟลุททำด้วยโลหะผสม คุณภาพเสียงของฟลุทในระดับสูงมีเสียงแจ่มใสเป่าเสียงในระดับสูงได้ดี เสียงในระดับต่ำมีความนุ่มนวล เหมาะสำหรับใช้บรรเลงเดี่ยวบรรเลงทำนองหลักของบทเพลง และบรรเลงทำนองสอดแทรกต่าง ๆ ในระดับเสียงสูง




4. ปิคโคโล คือ เครื่องดนตรีในกลุ่มเครื่องลมไม้ เป็นเครื่องดนตรีในตระกูลฟลุท วิธีการเป่าจึงเหมือนกับการเป่าฟลุท ปิคโคโลมีระดับเสียงสูงกว่าฟลุทอยู่ 1ช่วงคู่แปด มีขนาดเล็กกว่าฟลุท 4 เท่า จึงทำให้มีคุณภาพเสียงที่สดใสและแหลมมาก เสียงในระดับต่ำของปิคโคโลจะดังไม่ชัดเจน ปิคโคโลจึงเหมาะที่จะใช้ในการเล่นในระดับเสียงกลางและเสียงสูงมากกว่าในระดับเสียงต่ำ

เครื่องดนตรีสากลประเภทเครื่องลมทองเหลือง




1. ทรัมเป็ท คือ เครื่องดนตรีที่จัดอยู่ในประเภทเครื่องลมทองเหลืองกำพวดสำหรับเป่ามีลักษณะเป็นท่อโลหะบานตรงปลาย คล้ายรูปถ้วย ท่อลมทรัมเป็ทด้านปลายท่อ บานออกเป็นลำโพง เพื่อขยายเสียงให้ดัง ทรัมเป็ทมีลูกสูบ 3ลูกสูบสำหรับเปลี่ยนความสั้นยาวของท่อลม เพื่อเปลี่ยนระดับเสียงดนตรีที่เกิดขึ้น บางครั้งกดเดียง 1 นิ้ว บางครั้ง 2 นิ้ว หรือ 3 นิ้วพร้อมกันเป่าโดยเม้มริมฝีปาก แล้วทำให้ริมฝีปากสั่นสะเทือนในกำพวด เสียงของทรัมเป็ทเป็นเสียงที่มีพังและดังเจิดจ้า ในบทเพลงต่าง ๆ




2. ทูบา คือเครื่องดนตรีประเภทเครื่องลมทองเหลืองที่มีระดับเสียงต่ำสุด เครื่องเป่าทองเหลืองที่มีระดับเสียงต่ำเช่นเดียวกับทูบามีอีกจำนวนหนึ่ง เช่น บาริโทน ยูโฟเนียม และซูซาโฟน ทูบามีพัฒนาการมาจากการเป่าเขาสัตว์และการเป่าสังข์ ท่อลมของทูบามีลักษณะค่อย ๆ บานออก ส่วนตรงปลายท่อ บานเป็นลำโพง กำพวดเป็นโลหะรูปถ้วย มีลูกสูบ 3 หรือ 4 ลูกสูบ ทูบามีทั้งในระดับเสียงอีแฟล็ต และบีแฟล็ต






3. ยูโฟเนียม คือ เครื่องดนตรีประเภทเครื่องเป่าทองเหลือง ลักษณะเสียงของยูโฟเนียมจะนุ่มนวล ทุ้มลึก และมีความหนักแน่นมาก สามารถเล่นในระดับเสียงต่ำได้ดี บางครั้งนำไปใช้ในวงออร์เคสตร้าแทนทูบา คำว่า”ยูโฟเนียม” มาจากภาษากรีกหมายถึง ”เสียงดี” ลักษณะทั่วไปของยูโฟเนียมเหมือนกับเครื่องเป่าทองเหลืองทั่วไป จะมีลูกสูบ 3 – 4 ลูกสูบมีกำพวดเป็นรูปถ้วย ท่อลมกลวงบานปลายเป็นลำโพงเสียง มีเครื่องดนตรีชนิดหนึ่งชื่อ “บาริโทน” มีเสียงใกล้เคียงกับยูโฟเนียม แต่ท่อลมมีขนาดเล็กกว่า เสียงของบาริโทนจะมีความห้าวมากกว่ายูโฟเนียม พบว่าบ่อยครั้งที่มีการเรียกชื่อสลับกันระหว่างยูโฟเนียมและบาริโทน





4. ทรอมโบน คือ เครื่องลมทองเหลือง มีคันชักโค้งเป็นรูปตัวยู สำหรับเปลี่ยนความสั้นยาวของท่อลม ตำแหน่งของการเลื่อนคันชักจะมีอยู่ทั้งหมด 7 ตำแหน่ง ให้ระดับเสียงดนตรีต่างกันออกไป ท่อลมกลวงทรงกระบอก ปลายท่อบานออกเป็นลำโพง เป่าโดยใช้กำพวดเป็นรูปถ้วย

เครื่องดนตรีสากลประเภทเครื่องตีกระทบ

1. กลองใหญ่ คือ เครื่องตีกระทบ มี 2 หน้า ขึงด้วยหนังกลอง กลองใหญ่ที่ใช้ในวงออร์เคสตร้าจะมีขนาดใหญ่ที่สุดกว่า 32 นิ้ว ถ้าใช้ในวงโยธวาทิตจะมีขนาดตั้งแต่ 20-32นิ้ว ตีด้วยไม้ตี ปลายไม้ข้างหนึ่งทำเป็นปมไว้สำหรับใช้ตีกระทบกับหนังกลองปมนั้นอาจหุ้มด้วยสักหลาด ไม้ก๊อก ผ้านวม หรือ ฟองน้ำ เสียงกลองตีเน้นย้ำจังหวะเพื่อให้เกิดความหนักแน่น หรือ อาจจะใช้รัวเพื่อให้เกิดความตื่นเต้น รัวเพื่อสร้างจุดสนใจในบทเพลงเพิ่มขึ้นก็ได้


2. กลองเล็ก คือ เครื่องตีกระทบ มี 2 หน้า ขึงด้วยหนังกลอง ลักษณะเฉพาะ คือ หนังกลองด้านล่างต้องคาดไว้ด้วยสายสะแนร์มีทั้งที่ทำด้วยไนล่อนและทำด้วยเส้นลวดโลหะ กลองเล็กมีหลายชื่อ เช่น Snare Drum และ Side Drum และ มีขาตั้งรองรับตัวกลองใช้เป็นส่วนหนึ่งของกลองชุด หรือนำมาใช้บรรเลงประกอบจังหวะสำหรับวงออร์เคสตร้าหรือวงอื่นๆที่นั่งบรรเลง สำหรับวงโยธวาทิตและแตรวง มีตัวยึดกลองทำด้วยโลหะคล้องยึดไว้กับลำตัวของผู้ตี กลองจะอยู่ด้านหน้าของผู้ตีใช้สำหรับดรียกกลองเล็กที่ผู้ตีต้องใช้สายสะพายคล้องกลองไว้ข้างลำตัว ตะขอที่อยู่ติดกับขอบกลองใช้คล้องเกี่ยวกับตัวกลองไว้กับสายสะพาย ขอบกลองด้านบนอยู่ในระดับเดียวกับเอวชองผู้ตี ตัวกลองอยู่ในลักษณะเฉียงกับสำตัวของผู้ตี


3. กลองทิมปานี เป็นกลองที่มีลักษณะเหมือนกระทะหรือกาต้มน้ำ จึงมีชื่อเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า Kettle Drum ตัวกลองทำด้วยทองแดง ตั้งอยู่บนขาหยั่ง กลองทิมปานีมีระดับเสียงแน่นอน เทียบเท่ากับเสียงเบส มีกระเดื่องเหยียบเพื่อเปลี่ยนระดับเสียงตามต้องการในการบรรเบงต้องใช้อย่างน้อย 2 ใบ เสียงของกลองแสดงอำนาจ ทำให้ความยิ่งใหญ่ ตื่นเต้นเร้าใจ



4. กลองบองโก เป็นกลองคู่ จะต้องมี 2 ใบเสมอ เล็ก 1 ใบ ใหญ่ 1 ใบ ระดับเสียงของกลอง 2 ใบ ตั้งให้ห่างกันในระดับคู่ 4 หรือ คู่ 5 โดยประมาณ หนังกลองบองโกต้องตั้งให้ตึงกว่ากลองคองกา ตัวกลองติดตั้งอุปกรณ์ ยึดติดให้อยู่คู่กัน ขณะที่ตีกลอง ผู้ตีจะต้องหนีบกลองทั้ง 2 ใบให้อยู่ระหว่างขาทั้งสองข้างหนีบไว้ด้วยหัวเข่า หรือวางไว้บนขาตั้งโลหะก็ได้ กลองบองโกต้องตีด้วยปลายนิ้วมือ และฝ่ามือ เช่นเดียวกับกลองคองกา

5. แทมบูริน เป็นเครื่องตีกระทบ ประกอบชิ้นด้วยขอบกลม เหมือนขอบกลองขนาดเล็กประมาณ 10 นิ้ว ขอบทำด้วยไม้พลาสติก หรือโลหะ รอบ ๆ ขอบติดด้วยแผ่นโลหะประกบกัน 2 แผ่น หรือติดด้วยลูกกระพรวนเป็นระยะ ใช้การตีกระทบกับฝ่ามือหรือสั่นเขย่าให้เกิดเสียงดังกรุ๋งกริ๋ง เพื่อประกอบจังกวะให้เกิดความสนุกสนาน สดชื่น แทมบูรินบางชนิดจะขึงด้วยหนังเหมือนกลอง 1 ด้านใช้ฝ่ามือตีที่หนัง

6. ฉาบ คือ เครื่องดนตรีกระทบ มีหลายลักษณะ บางชนิดใช้ตีคู่ให้เกิดเสียง ผู้ตีต้องลอดมือเข้าไปที่หูร้อยฉาบซึ่งทำสายหนังแบฝ่ามือให้ประกบแนบกับฝาฉาบตรงส่วนนูนกลางฉาบ แล้วตีกระทบฝาฉาบด้วยมือทั้งสองข้างฉาบบางชนิดจะใช้เพียงข้างเดียวตีด้วยไม้ตีฉาบประเภทนี้ต้องติดตั้งบนขาตั้ง เช่น ฉาบที่ใช้สำหรับกลองชุด เป็นต้น ฉาบมีหลายขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางมากจะทำให้เกิดเสียงดังและความก้องกังวานมากขึ้น


7. โซโลโฟน คือ เครื่องดนตรีกระทบทีร่มีระดับเสียงแน่นอน เป็นระนาดไม้ขนาดเล็กของดนตรนีตะวันตก ลักษณะทั่วไปจะคล้ายกับมาริมบา หรือ ไวบราโฟน แต่ขนาดเล็กกว่า ลูกระนาดทำด้วยไม้เนื้อแข็ง ใต้ลูกระนาดมีท่อโลหะติดอยู่ เพื่อเป้นตัวขยายเสียง

เครื่องดนตรีสากลประเภทเครื่องลิ่มนิ้ว



1. เปียโน เป็นเครื่องดนตรีประเภทคีย์บอร์ด เกิดเสียงโดยการกดคีย์ที่ต้องการ แล้วคีย์นั้นจะส่งแรงไปที่กลไกต่างๆภายในเครื่อง เพื่อที่จะทำให้สายโลหะที่ขึงตึงสั่นสะเทือนทำให้เกิดเสียงดังขึ้น สายเสียงจะถูกตีด้วยค้อน ซึ่งเชื่อมโยงไปยังคีย์ที่กด โดยผ่านเครื่องกลไกที่ซับซ้อนที่เรียกว่า แอ็คชั่น แต่เดิมเปัยโนมีชื่อเรียกว่า เปียโนฟอร์เต ทั้งนี้เพราะ เปียโนสามารถบรรเลงด้วยเสียงเบาและเสียงดังได้อย่างเด่นชัด



2. ออร์แกน เป็นเครื่องดนตรีคีย์บอร์ดประเภทใช้ลม เมื่อมีลมเป่าผ่านท่อทำให้เกิดเสียงท่อละหนึ่งเสียง ออร์แกนมีแผงคีย์สำหรับกดด้วยนิ้วและแผงคีย์เหยียบด้วยเท้าแผงคีย์ที่กดเล่นด้วยมือเรียกว่า แมนนวล แผงคีย์ที่เหยียบด้วยเท้า เรียกว่า เพดดัล การบังคับกลุ่มท่อต่างๆซึ่งจะดไว้เป็นพวกเดียวกันทำได้โดยการใช้ปุ่มกด หรือดันยกขึ้นลง ที่เรียกว่า สต็อป ออร์แกนขนาดใหญ่จะมีกลุ่มท่อเปลี่ยนเสียงที่เรียกว่า รีจีสเตอร์ เป็นจำนวนมากเพื่อใช้สร้างสีสันแห่งเสียงได้หลากหลาย ออร์แกนสมัยใหม่ใช้ไฟฟ้าบังคับแกนลมซึ่งตามแบบดั้งเดิมนั้นลมที่ใช้ก็เกิดจากการอัดลมด้วยเท้าของผู้เล่นหรือไม่ก็มีผู้ช่วยอัดลมแทนให้

การขับร้องเพลง


การขับร้องเพลง

                      การร้องเพลง หรือ การขับร้อง คือการทำให้เกิดเสียงดนตรีจากเสียงและเสริมด้วยถ้อยคำทั้ง            ระบบเสียงสูงต่ำและจังหวะ คนที่ขับร้องเพลงเรียกว่า นักร้อง และนักร้องจะแสดงการขับร้องเพลง ซึ่งอาจจะร้องแบบอะแคปเปลา (ร้องโดยไม่ใช้ดนตรี) หรือมีนักดนตรี เคื่องดนตรีประกอบ ไม่ว่าจะเป็นเครื่องดนตรีตัวเดียวหรือเต็มวง การร้องนั้นส่วนใหญ่จะร้องร่วมการแสดงกับนักดนตรีกลุ่มอื่น ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มคอรัสที่ร้องในเสียงที่แตกต่างกัน หรือกลุ่มนักเล่นดนตรี อย่างเช่นวงร็อกเป็นต้น
                     การร้องเพลงนั้นาอาจร้องแบบไม่เป็นทางการ ร้องเพื่อความบันเทิง อย่างเช่นร้องระหว่างการอาบน้ำ ร้องคาราโอเกะหรือในบางกรณีร้องอย่างเป็นทางการ เช่นร้องในระหว่างพิธีทางศาสนา หรือนักร้องอาชีพร้องเพื่อแสดงบนเวทีหรือร้องในสตูดิโอ การร้องที่มีทักษะสูงหรือร้องในระดับอาชีพ มักจะต้องอาศัยความสามารถแต่กำเนิด การเรียนการสอน และการฝึกฝนนักร้องมืออาชีพจะสร้างหนทางสู่อาชีพด้วยการเป็นนักร้องในแนวเพลงต่าง ๆ อย่างเช่น นักร้องคลาสสิก นักร้องร็อก พวกเขาต้องฝึกทักษะการร้องในแนวเพลงนั้น ทั้งจากครูสอนร้องหรือโค้ชร้อง ในอาชีพของพวกเขา

แนะนำตัวเอง



ประวัติส่วนตัว

ชื่่อ เด็กหญิงพรรณธิภา  ผ่องแผ้ว  
ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 / 4   เลขที่  33
                                                    ชื่อเล่น ไอซ์
        โรงเรียนนารีนุกูล  จังหวัดอุบลราชธานี
    เกิดวันพุธที่  17  มิถุนายน  พ.ศ.2541
                                                    อาหารที่ชอบ  อาหารทะเล
                                                   ดาราที่ชอบ  ใบเฟิร์น  พิมพ์ชนก
                                                   นักร้องที่ชอบ  ริท  The star  6
                                                 คำคมที่ชอบ  ไม่รักไม่ได้หมายความว่าต้องเกลียด และคนที่รักเราก็ไม่ได้หมายความว่าจะรักเราเสมอไป